เมื่อสหรัฐสั่งแบน Kaspersky Lab ผู้ประกอบการจะทำอย่างไร?
เมื่อสหรัฐสั่งแบน Kaspersky Lab ผู้ประกอบการจะทำอย่างไร?
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา (ปลายเดือนสิงหาคม 2017) ทางรัฐบาลกลางสหรัฐได้มีคำสั่งแบนผลิตภัณฑ์ของรัสเซีย ซึ่งก็มีผลกับ Kaspersky Lab โดยตรง ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความวิตกกังวลของรัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆบนโลกไซเบอร์ที่ทางการรัสเซียจะสามารถเข้ามาสร้างความเสียหายให้รัฐบาลสหรัฐได้
“โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (Department of Homeland Security: DHS) ได้ออกแถลงการณ์ซึ่งมีสาระสำคัญในการประกาศแบนการใช้ซอฟต์แวร์ของ Kaspersky Lab ผู้ให้บริการโซลูชัน Endpoint Protection สัญชาติรัสเซีย ซึ่งคาดว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของความมั่นคงระหว่างประเทศ”
และถึงแม้ว่าทางบริษัท Best Buy (องค์กรด้านไอทีชื่อดังที่นำผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky ให้บริการ) ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดร่วมกับ Kaspersky แล้วก็ตามก็ไม่มีผลต่อคำสั่งแบนนี้ ทาง Best Buy จึงต้องถอดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Kaspersky ออกจากการให้บริการทันที
เป็นผลให้องค์กรมากมายที่เลือกใช้ Kaspersky Lab เกิดความกังวลว่าจะมีส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานด้านไอทีของธุรกิจและองค์กรของตนเอง BeyondTrust จึงออกมาเสนอทางเลือกในฐานะหน่วยงานสนับสนุนรัฐบาลสหรัฐ เพื่อแก้ปัญหานี้และคลายความกังวลของผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์ Kaspersky Lab ด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆผ่านการใช้ Retina CS (ซึ่งจะเป็นไปตามข้อบังคับของรัฐบาลสหรัฐ)
ค้นหา Instances ของ Kaspersky Lab ภายในเครือข่ายขององค์กรโดยใช้ BeyondTrust Retina CS
ขั้นตอนที่ 1 : Log in เข้าสู่ the BeyondTrust IT Risk Management Platform (BeyondInsight)
ขั้นตอนที่ 2 : ทำให้ขั้นตอนการค้นหา Instances ของ Kaspersky Lab เป็นระบบอัตโนมัติ ตามเครื่องมือของ BeyondTrust ตามขั้นตอนดังนี้
โดยเครื่องมืออัจฉริยะของ “BeyondTrust” 0tช่วยให้คุณสามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติเมื่อมีการค้นพบค้นหา Instances ของ Kaspersky Lab ซึ่งรวมถึงระบบเหล่านี้ที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
- สร้างระบบการแจ้งเตือน (ตามที่ได้ตั้งค่าเอาไว้และคุณลักษณะที่เกี่ยวข้อง) เข้าไปทางอีเมล์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้อัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ
- สามารถส่งออกข้อมูลไปยัง ServiceNow หรือ BMC Remedy ได้โดยอัตโนมัติ
- ส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปทางอีเมล์
- กำหนดคุณลักษณะของทรัพย์สินและข้อมูล ในทุกด้านที่ Kaspersky Lab เข้าถึง
- สามารถรายงานกลุ่มข้อมูลและทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบ
ภาพการแสดงผลของ Smart Rules Manager for Assets
ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากที่คุณสร้างกฎไว้แล้ว คุณจะสามารถเรียกใช้งาน Software Report โดยทำการผ่านข้อมูลทั้งหมดที่มีผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky Lab ภายใต้เครือข่ายของคุณเอง ซึ่งจะใช้การรายงานผ่าน IP โดยอย่างไรก็ตามระบบนี้จะทำงานได้แบบอัตโนมัติตามที่คุณได้ตั้งค่าเอาไว้
ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อมีการค้นพบเนื้อหาทั้งหมด (ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก) ของ Kaspersky Labs ภายในเครือข่ายของคุณผ่าน BeyondTrust และด้วยฟังก์ชันการรายงานที่มีประสิทธิภาพ Analytics และ Reporting จะช่วยให้คุณสามารถติดตามความคืบหน้าโดยใช้รายงาน 270 ฉบับ เช่นเรื่องการรายงานการเปลี่ยนแปลงของ Asset Software Delta Trend เป็นต้น
ภาพการแสดงผลของ BeyondTrust Analytics & Reporting
Reference : https://www.beyondtrust.com/blog/discovering-kaspersky-lab-products-using-beyondtrust-retina-cs/