Cyber Security แบบไหนที่คุณต้องการ? ใช้งานง่าย vs ความรัดกุมในการป้องกัน
Cyber Security แบบไหนที่คุณต้องการ? ใช้งานง่าย vs ความรัดกุมในการป้องกัน
หนึ่งในคำถามสำคัญด้าน cyber security คือ “ความใช้งานง่าย vs ความรัดกุมในการป้องกัน” เราควรใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยชิ้นเดียวที่ทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น หรือจะใช้แบบหนึ่งฟังก์ชั่นหนึ่งอุปกรณ์เฉพาะทางไปเลย
การใช้เครื่องมือที่เป็นชุด หรือแบบ all-in-one มีจุดเด่น 3 ข้อหลักๆ คือ 1. ใช้งานได้ง่าย 2. หลีกเลี่ยงปัญหาการตั้งค่าที่ผิดพลาดของอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง และทำให้ระบบความปลอดภัยโดยรวมพังไปทั้งหมด และ 3. ต้นทุนที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการความสะดวกสบายในการทำงาน
แต่ถ้าคุณมองตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นและต้องการยกระดับความปลอดภัยให้สูงกว่าค่ามาตรฐาน การซื้ออุปกรณ์แยก และปรับจูนระบบทุกอย่างให้เข้ากันด้วยตัวเอง แม้จะอาจต้องเสียเงินมากขึ้น แต่ก็ลดความเสี่ยงลงไปได้มากกว่า
จากผลสำรวจของ Alcide ในปีที่ผ่านมา พบว่าบริษัทส่วนใหญ่หันมาใช้ multicloud และ hybrid cloud และ 73% ตอบมาว่าพวกเขาปรับค่า policy ต่างๆ แบบแมนน่วลด้วยตัวเอง และ 75% บอกว่าพวกเขาจะซื้ออุปกรณ์เข้ามามากขึ้น ซึ่งหมายถึงการรักษาความปลอดภัยจะแยกส่วนมากขึ้นด้วย
หลายๆ องค์กรใช้ cybersecurity analyst เพื่อเชื่อมต่อการทำงานของแต่ละโปรแกรมเข้าด้วยกัน ผลสำรวจบ่งชี้ว่าองค์กร 45% ใช้ทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำหรับ cloud security และ 35% ใช้ทีม DevOps และ DevSecOps ในงานด้านความปลอดภัย
ในการ integrate เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแต่ละตัว ผู้ดูแลระบบควรทำ 5 อย่างนี้
- ดูเรื่อง logging และมอนิเตอร์ระบบจากส่วนกลาง
ถ้าต้องการการวิเคราะห์ข้อมูล log อย่างละเอียด สิ่งแรกที่ต้องทำคือการควบคุมทุกอย่างจากส่วนกลาง และตรวจสอบดูว่าโซลูชั่น Security Information and Event Management (SIEM) นั้น integrate ร่วมกับส่วนอื่นๆ ในระบบหรือไม่อีกด้วย
- ทดสอบ code security ก่อนติดตั้ง
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลายครั้งเกิดขึ้นจาก code deployment ด้วยเหตุนี้ developer ควร test code เพื่อตรวจสอบการทำงานทุกครั้ง จะได้บล็อก code ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยก่อนการติดตั้ง
- เพิ่ม threat intelligence ลงไปใน Firewall
Threat Intelligence คือศูนย์รวมข้อมูลและช่วยให้การจัดการภัยคุกคามที่เคยมีมาก่อนหน้าเป็นไปโดยอัตโนมัติ ทุ่นแรงของผู้ดูแลระบบไปได้มาก
- ใช้ ticketing เพื่อกลบจุดอ่อนด้านความปลอดภัย
การ scan ระบบเพื่อหาช่องโหว่เป็นงานสำคัญของ developer, engineer และ manager แต่ในหลายๆ ครั้งภัยคุกคามหลุดรอดการ scan ไปได้ ปัญหานี้แก้ได้โดยการสร้างลิงค์ระหว่าง vulnerability scanner กับ service ticketing system ในทำคุณสามารถสร้าง ticket ใหม่ๆ และมอนิเตอร์ปัญหาที่แก้ไขไปแล้วได้
- Integrate ระบบของ cloud ให้เข้ากับ SIEM
หลังจากตั้งค่า cloud infrastructure security เรียบร้อยแล้ว ต้อง integrate มันเข้าไปรวมกับ SIEM ด้วย
ทั้ง 5 ข้อนี้จะช่วยให้เครื่องมือแต่ละชิ้นทำงานร่วมกันได้ราบรื่น อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปมาก การลงทุนกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบ multifunction ที่สามารถควบคุมทุกอย่างจากส่วนกลางได้ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ได้ความปลอดภัยแบบพรีเมี่ยมที่ใช้งานได้ง่ายเช่นกัน และนั่นทำให้ ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่า เราควรใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยชิ้นเดียวที่ทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น หรือจะใช้แบบหนึ่งฟังก์ชั่นหนึ่งอุปกรณ์เฉพาะทางไปเลยกันแน่
__________________________
ถ้าท่านใดสนใจทดสอบ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
💻 : www.firewallhub.com
☎ : 02-392-3608
📱 : [email protected]