บริการ DFIR (Digital Forensics and Incident Response) คืออะไร ?

DFIR

บริการ DFIR (Digital Forensics and Incident Response) คืออะไร ?

บริการ DFIR (Digital Forensics and Incident Response) เป็นบริการสำหรับองค์กรเพื่อการรับมือและฟื้นฟูจากเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสวน วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อลดผลกระทบและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

1. การตอบสนองต่อเหตุการณ์ (Incident Response)

  • การควบคุมภัยคุกคาม: แยกระบบที่ได้รับผลกระทบเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
  • การลดผลกระทบและกำจัดภัยคุกคาม: ลบมัลแวร์ การเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือภัยคุกคามต่าง ๆ ออกจากระบบ
  • การวิเคราะห์หลังเหตุการณ์: ค้นหาสาเหตุหลักและช่องทางที่ผู้โจมตีใช้

2. การตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัล (Digital Forensics)

  • การเก็บรวบรวมหลักฐาน: รวบรวมและเก็บรักษาหลักฐานดิจิทัลอย่างปลอดภัยเพื่อการวิเคราะห์หรือใช้ในกระบวนการทางกฎหมาย
  • การกู้คืนข้อมูล: กู้คืนข้อมูลที่ถูกทำลายหรือถูกลบจากระบบหรืออุปกรณ์
  • การวิเคราะห์บันทึก (Log Analysis): ตรวจสอบบันทึกจากไฟร์วอลล์ เซิร์ฟเวอร์ และแอปพลิเคชันเพื่อติดตามกิจกรรมของผู้โจมตี
  • การวิเคราะห์มัลแวร์: วิเคราะห์มัลแวร์เชิงลึกเพื่อเข้าใจพฤติกรรมและผลกระทบของมัน

3. การบูรณาการข่าวกรองภัยคุกคาม (Threat Intelligence Integration)

  • ใช้ข้อมูลภัยคุกคามจากทั่วโลกเพื่อตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างภัยคุกคามและสภาพแวดล้อมขององค์กรเพื่อลดความเสี่ยง

4. บริการเชิงรุก (Proactive Services)

  • การประเมินความเสียหาย: ตรวจสอบเครือข่ายและระบบเพื่อหาสัญญาณการโจมตี (IOCs)
  • การทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing): จำลองการโจมตีเพื่อค้นหาช่องโหว่
  • การเตรียมความพร้อมในการตอบสนองเหตุการณ์ (Incident Response Readiness): พัฒนาและทดสอบแผนการตอบสนองเหตุการณ์ (IRP)

5. การรายงานและการสนับสนุนด้านกฎหมาย

  • การจัดทำรายงานเหตุการณ์: รายงานผลการสืบสวน การตอบสนอง และบทเรียนที่ได้เรียนรู้
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนด: การจัดการหลักฐานและการรายงานให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย

6. การตรวจจับและตอบสนองแบบจัดการ (Managed Detection and Response – MDR)

  • การเฝ้าระวังระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจจับภัยคุกคามด้วยเครื่องมือ SIEM, EDR หรืออื่น ๆ
  • การตอบสนองแบบอัตโนมัติเพื่อลดระยะเวลาที่ภัยคุกคามอยู่ในระบบ

7. การฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้

  • ให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับกระบวนการตอบสนองต่อเหตุการณ์
  • ฝึกอบรมทีมงานภายในให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. องค์กรที่ถูกแรนซัมแวร์ (Ransomware): ระบบหรือไฟล์ถูกเข้ารหัสโดยผู้ไม่หวังดี และมีการเรียกค่าไถ่เพื่อปลดล็อกข้อมูล
  2. องค์กรที่ถูกมีข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางธุรกิจ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญรั่วไหลออกไป (Data Breach)
  3. องค์กรที่พบพบว่ามีการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
  4. องค์กรที่ถูกการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial of Service): ระบบหรือเครือข่ายล่มจากการถูกถล่มด้วยทราฟฟิกจำนวนมาก
  5. องค์กรที่ถูกบุกรุกระบบ (Intrusion) มีสัญญาณว่าผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงระบบภายในหรือเครือข่าย เช่น การพบกิจกรรมที่ผิดปกติใน Log หรือการเปลี่ยนแปลงไฟล์สำคัญโดยไม่ทราบสาเหตุ
  6. องค์กรที่พบมัลแวร์ในระบบ หรือมีการทำงานของโปรแกรมที่น่าสงสัย เช่น ไฟล์ที่ไม่รู้จักถูกดาวน์โหลดหรือโปรแกรมเริ่มทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
  7. องค์กรที่พบพบการโจมตีแบบ Advanced Persistent Threats (APTs) ซึ่งมัลแวร์อาจซ่อนตัวในระบบเป็นเวลานาน
  8. องค์กรที่พบมีเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น GDPR, PCI DSS, หรือกฎหมายไซเบอร์ของไทย
  9. องค์กรที่ถูกมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างระบบเครือข่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
  10. องค์กรที่พบข้อมูลรั่วไหลหรือการถูกคุกคามทางไซเบอร์ และต้องการให้ตรวจสอบด่วน
DFIR

สนใจสินค้า :

https://mon.co.th

https://onestopware.com

https://firewallhub.com

สอบถามเพิ่มเติม :

📞 : 02-026-6665

📩 : [email protected]

LINE : https://page.line.me/?accountId=monsteronline

Monster Online
Monster Online