
BYOD, CYOD, COPE, COBO คืออะไร? แตกต่างอย่างไร?
ปัญหาความหลากหลายของอุปกรณ์ ถือเป็นประเด็นที่มีมานานในที่ทำงาน — การใช้งานอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ส่วนบุคคลต่างๆ ล้วนเพิ่มความซับซ้อนในกระบวนการจัดการอุปกรณ์สำหรับฝ่าย IT ด้วยความหลากหลายของอุปกรณ์ในที่ทำงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 และการทำงานจากระยะไกลที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้หลายองค์กรต้องพิจารณาวิธีการแจกจ่ายและจัดการอุปกรณ์ใหม่
ในปี 2021 มีแนวโน้มของ BYOD ที่แพร่หลายมากขึ้น โดยตามข้อมูลจาก Bitglass พบว่า ในปี 2021 มีองค์กร 47% ที่เห็นการใช้ อุปกรณ์ส่วนบุคคล เพื่อการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ส่วนบุคคลเหล่านี้ไม่สามารถจัดการในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์ที่องค์กรเป็นเจ้าของได้
ความท้าทายใหม่ ที่มาพร้อมกับการทำงานในยุคปัจจุบัน คือการเข้าใจว่าองค์กรของคุณมีอุปกรณ์ประเภทใดบ้าง จำแนกตามเจ้าของและผู้ดูแล รวมถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน จากนั้นตัดสินใจว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะถูกจัดการอย่างไรเพื่อให้เกิดการป้องกันที่ดีที่สุด โดยการเข้าใจประเภทของอุปกรณ์และการจัดการให้ถูกต้องจะช่วยลดช่องทางการโจมตีที่ไม่ตั้งใจ
ความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์ของอุปกรณ์
มีอุปกรณ์สองประเภทหลักที่ใช้ในที่ทำงาน: อุปกรณ์ส่วนบุคคล และ อุปกรณ์ที่องค์กรเป็นเจ้าของ (COD) โดยที่ COD ยังสามารถแยกย่อยออกเป็นกลุ่มย่อยได้อีกตามลักษณะต่างๆ ตัวแปรที่แยกประเภทของอุปกรณ์แต่ละประเภทมีดังนี้:
- ใครเป็นเจ้าของอุปกรณ์?
- ใครเป็นเจ้าของข้อมูลบนอุปกรณ์?
- ใครดูแลอุปกรณ์?
- ใครจ่ายค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์?
- ใครเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในอุปกรณ์?
- อุปกรณ์ถูกใช้งานในลักษณะใด?
1. BYOD (Bring Your Own Device)

BYOD ย่อมาจาก Bring Your Own Device แปลตรงตัวก็คือ “นำอุปกรณ์ของคุณมาเอง” นั่นแหละ! หมายถึงการที่พนักงานใช้ อุปกรณ์ส่วนตัว อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อปของตัวเอง ในการทำงาน เช่น เช็คอีเมล อ่านเอกสาร หรือเข้าถึงระบบต่างๆ ของบริษัท
ข้อดีของ BYOD
- สะดวกสบาย: ไม่ต้องพกอุปกรณ์หลายเครื่องให้วุ่นวาย
- ทำงานได้เร็วขึ้น: เพราะคุ้นเคยกับอุปกรณ์ของตัวเองอยู่แล้ว
- ประหยัด: บริษัทไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ให้
- มีความสุขในการทำงาน: พนักงานชอบที่เลือกใช้อุปกรณ์ที่ตัวเองถนัดได้
ข้อเสียของ BYOD
- ความปลอดภัย: ข้อมูลบริษัทอาจรั่วไหลได้ง่าย
- ความเป็นส่วนตัว: พนักงานอาจกังวลว่าบริษัทจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในเครื่อง
- ปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์: อาจมีปัญหาเรื่องการติดตั้งโปรแกรม หรือการอัพเดท
- ยากต่อการจัดการ: บริษัทควบคุมดูแลอุปกรณ์ได้ยาก เพราะแต่ละคนใช้เครื่องไม่เหมือนกัน
- เสียสมาธิ: แอปฯ ส่วนตัวในเครื่อง อาจทำให้พนักงานเสียสมาธิ
สิ่งที่บริษัทต้องคิดให้ดี
- ต้องมีกฎที่ชัดเจน: บอกพนักงานให้รู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
- ต้องบอกให้ชัดเจนว่าจะตรวจสอบอะไรบ้าง: เพื่อไม่ให้พนักงานรู้สึกว่าถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว
- ต้องมีระบบจัดการที่ดี: เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท
สรุปง่ายๆ คือ BYOD ก็เหมือนดาบสองคม มีทั้งข้อดีและข้อเสีย บริษัทต้องชั่งน้ำหนักให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ
องค์กรสามารถใช้ MDM (Mobile Device Management) หรือ UEM (Unified Endpoint Management) มาช่วยควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์ BYOD ได้ เช่น Hexnode
2. COPE (Corporate-Owned, Personally Enabled)

COPE ย่อมาจาก Corporate-Owned, Personally-Enabled แปลว่า “บริษัทเป็นเจ้าของ แต่อนุญาตให้ใช้ส่วนตัวได้” ง่ายๆ เลยก็คือ บริษัทซื้ออุปกรณ์ให้พนักงานใช้ แต่! พนักงานก็สามารถเอาไปใช้ส่วนตัวได้ด้วย เช่น โทรศัพท์มือถือที่บริษัทให้ ก็สามารถใช้โทรหาเพื่อน พ่อแม่ เล่นโซเชียลมีเดีย ได้ตามปกติ
ข้อดีของ COPE
- บริษัทควบคุมได้: สามารถกำหนดกฎในการใช้งานได้ เช่น ห้ามลงแอปฯ อันตราย
- ปลอดภัย: บริษัทสามารถดูแลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้ดีขึ้น
- พนักงานพอใจ: ได้ใช้ของฟรี แถมยังเอาไปใช้ส่วนตัวได้ด้วย
- ประหยัด: บริษัทอาจได้ส่วนลดเมื่อซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก
ข้อเสียของ COPE
- บริษัทต้องดูแล: ต้องรับผิดชอบค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษา
- พนักงานอาจไม่ชอบ: บางคนอาจไม่ชอบรุ่นหรือยี่ห้อที่บริษัทเลือกให้
- เสียเวลา: กว่าจะติดตั้งโปรแกรม กว่าจะแจกจ่ายให้พนักงาน อาจใช้เวลานาน
- ความเป็นส่วนตัว: บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพนักงานได้ (แต่ก็มีวิธีป้องกันได้)
สรุป COPE เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัท ที่ต้องการความปลอดภัย แต่ก็อยากให้พนักงานมีความสุขในการใช้งานอุปกรณ์ด้วย
3. COBO (Corporate-Owned, Business-Only)

COBO ย่อมาจาก Corporate-Owned, Business-Only แปลว่า “บริษัทเป็นเจ้าของ ใช้สำหรับธุรกิจเท่านั้น” พูดง่ายๆ ก็คือ อุปกรณ์ที่บริษัทซื้อให้ ใช้ทำงานอย่างเดียว ห้ามเอาไปใช้ส่วนตัว!
อุปกรณ์แบบ COBO มักจะเป็นพวกแท็บเล็ตที่ตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในบริษัท หรืออุปกรณ์ควบคุมห้องประชุม แต่ก็อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนที่บริษัทให้พนักงานใช้ โดยมีกฎห้ามใช้ส่วนตัวอย่างเด็ดขาด
ข้อดีของ COBO
- บริษัทคุมได้หมด: อยากให้ใช้อะไร ยังไง ได้หมดเลย!
- ปลอดภัยขั้นสุด: ข้อมูลบริษัทจะปลอดภัยมาก เพราะไม่มีข้อมูลส่วนตัวปนอยู่เลย
- ประหยัด: บริษัทซื้ออุปกรณ์แบบเดียวกันจำนวนมาก อาจได้ส่วนลดเยอะ
- ค่าเน็ตถูก: เพราะใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับงานอย่างเดียว
ข้อเสียของ COBO
- พนักงานไม่ค่อยชอบ: เพราะเอาไปใช้ส่วนตัวไม่ได้เลย อาจต้องพกมือถือ 2 เครื่อง
- บริษัทต้องรับผิดชอบทุกอย่าง: ทั้งค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษา
สรุป COBO เหมาะกับบริษัทที่เน้นความปลอดภัยของข้อมูลมากๆ แต่ถ้าอยากให้พนักงานมีความสุขในการใช้งานด้วย อาจจะต้องเลือกแบบอื่น
4. CYOD (Choose Your Own Device)

CYOD ย่อมาจาก Choose Your Own Device แปลว่า “เลือกอุปกรณ์ของคุณเอง” หมายถึง บริษัทมี รายการอุปกรณ์ให้พนักงานเลือก ว่าอยากใช้รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร แต่! ต้องเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในลิสต์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้นนะ
ข้อดีของ CYOD
- พนักงานมีสิทธิ์เลือก: ได้ใช้อุปกรณ์ที่ตัวเองชอบและถนัดมากขึ้น
- บริษัทดูแลง่าย: เพราะมีอุปกรณ์ให้เลือกไม่มาก ทำให้ดูแลจัดการได้ง่าย
- ประหยัดเวลา: ติดตั้งโปรแกรมง่าย ไม่ต้องเสียเวลาสอนวิธีใช้มาก
- บริษัทคุมได้: สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ในการใช้งานได้
ข้อเสียของ CYOD
- ตัวเลือกจำกัด: พนักงานเลือกได้เฉพาะอุปกรณ์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น
- มีค่าใช้จ่าย: บริษัทต้องเป็นคนซื้ออุปกรณ์
สรุป CYOD เป็นเหมือนการประนีประนอมระหว่าง BYOD กับ COBO คือพนักงานมีอิสระในการเลือกมากขึ้น แต่บริษัทก็ยังควบคุมดูแลได้อยู่
จัดการอุปกรณ์ BYOD และ COD ยังไงให้ลงตัว?
การเลือกนโยบายจัดการอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น BYOD, COPE, CYOD หรือ COBO ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักๆ คือ
- ความยืดหยุ่น: บริษัทอยากให้พนักงานมีอิสระในการใช้งานมากแค่ไหน?
- การควบคุม: บริษัทต้องการควบคุมดูแลอุปกรณ์มากน้อยแค่ไหน?
จำไว้ว่า:
- COPE และ CYOD: ปรับระดับความยืดหยุ่นได้ตามนโยบายของบริษัท
- BYOD: บริษัทควบคุมได้มากขึ้น ถ้ามีเครื่องมือจัดการอุปกรณ์ที่ดี
ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้แบบเดียว แต่ละแผนกอาจมีกฎที่ต่างกันได้ เช่น แผนกการตลาดอาจใช้ BYOD ได้ แต่แผนกบัญชีต้องใช้ COBO
สิ่งสำคัญคือ:
- กำหนดนโยบายให้ชัดเจน: บอกพนักงานให้รู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อป้องกันทั้งบริษัทและพนักงาน
- ใช้เครื่องมือจัดการอุปกรณ์: ช่วยให้บริษัทจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย เพิ่มความปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
แหล่งที่มา : https://jumpcloud.com/blog/defining-byod-cope-cobo-cyod
ปกป้องอุปกรณ์ BYOD ด้วย Hexnode MDM – ควบคุม ปลอดภัย ใช้งานง่าย!
📢 CLICK
✅ ควบคุม – จัดการอุปกรณ์ระยะไกล ตั้งค่านโยบาย และบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย
✅ ปลอดภัย – ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ควบคุมการเข้าถึง และเข้ารหัสข้อมูล
✅ ใช้งานง่าย – ระบบบริหารจัดการที่เป็นมิตร ตั้งค่าได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก
ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและบริการที่ดีที่สุดในด้านความปลอดภัยไซเบอร์
สนใจสินค้า :
สอบถามเพิ่มเติม :
: 02-026-6665