Starlink เน็ตดาวเทียม

Starlink Space X

Starlink คืออีกหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ของ SpaceX บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง (เพื่อประหยัดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศ) ที่ อีลอน มัสก์ ตั้งขึ้นมา โดยใช้ศักยภาพของ SpaceX ในการติดตั้งดาวเทียมทั้งหมดของ Starlink ซึ่งเป็นดาวเทียมที่ใช้ส่งสัญญาณลงมายังโลก 

มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้ที่ติดตั้งจานรับสัญญาณสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งต่างจากอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอย่างการเดินสายไฟเบอร์ออปติก ที่มีข้อจำกัดคือติดตั้งได้ยาก โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลที่ยังไม่ค่อยมีโครงสร้างพื้นฐาน และข้อจำกัดอีกข้อคือการเดินสายสื่อสารจากเสาไฟฟ้าเพื่อเชื่อมต่อเข้ามาในบ้านหรืออาคาร หากมีจุดใดจุดหนึ่งระหว่างทางชำรุดหรือเสียหาย ก็จะไม่สามารถได้งานอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ยูเครนกำลังประสบอยู่

โดยเป้าหมายของ Starlink คือต้องการให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม (ยกเว้นขั้วโลกเหนือและใต้) นอกจากนั้นยังกำลังพัฒนาบริการเพื่อให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินสามารถเชื่อมต่อ WiFi เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย 

เราจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบ้านจากดาวเทียม Starlink ได้อย่างไร? และราคาเท่าไร? การติดตั้งเพื่อใช้บริการอินเทอร์เน็ตจาก Starlink ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมเล็กๆ เพื่อรับสัญญาณจากดาวเทียมและส่งต่อเข้าไปในเราเตอร์ที่อยู่ในบ้าน โดยการติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมสามารถติดตั้งได้บนหลังคา สนามหญ้า และพื้นที่อื่นๆ ภายนอกตัวบ้าน 

โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงการหันหน้าจานในทิศทางที่จะมีวัตถุหรือสิ่งของใดๆ มาบังสัญญาณ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับคุณภาพการเชื่อมต่อได้ ตัวอย่างเช่น หากบริเวณหน้าจานดาวเทียมถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาแน่น มีฝนตกหนัก หรือเจอพายุลมแรง ก็อาจจะทำให้ความเร็วดาวน์โหลดลดลง ไปจนถึงไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ 

ค่าบริการรายเดือนของ Starlink อยู่ที่ 99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน บวกค่าใช้จ่ายของจานรับสัญญาณและเราเตอร์อีก 499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16,000 บาท

อินเทอร์เน็ตจาก Starlink มีความเร็ว แรง ขนาดไหน?

ความเร็วอินเทอร์เน็ต Starlink จะอยู่ที่ 50-150 Mbps เท่านั้น และมีความหน่วงหรือ Latency อยู่ที่ 20-40 มิลลิวินาที ในขณะที่อินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิม หรือแบบเดินสายไฟเบอร์ออปติกมีความเร็วสูงสุดถึงระดับ 1,000 Mbps หรือเร็วกว่า Starlink เกือบ 7 เท่า 

แต่ในปี 2022 Starlink มีแผนที่จะเปิดให้บริการ Premium Tier ซึ่งจะมีความเร็วดาวน์โหลดอยู่ที่ 150-500 Mbps เลยทีเดียว ถือว่าเทียบเคียงอินเทอร์เน็ตแบบเดินสายไฟเบอร์ออปติกได้ แต่มีราคาค่าบริการสูงถึง 500 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน และค่าอุปกรณ์อีก 2,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 81,000 บาท 

การที่ Starlink ยังไม่สามารถทำความเร็วอินเทอร์เน็ตได้สูง เนื่องจาก Starlink เป็นการส่งสัญญาณจากดาวเทียม ซึ่งสัญญาณต้องใช้ระยะการเดินทางลงสู่จานรับสัญญาณที่ตั้งอยู่บนโลกในระยะทางที่ไกล ซึ่ง Starlink กำลังเดินหน้าพัฒนาดาวเทียมที่มีวงโคจรต่ำที่มีระยะทางใกล้กับโลก เพื่อให้สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วมากขึ้นได้ โดยในปัจจุบันดาวเทียม Starlink ถือว่าเป็นดาวเทียมที่วงโคจรต่ำกว่าดาวเทียมทั่วๆ ไปอยู่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าดาวเทียมทั่วไปถึง 60 เท่าเลยทีเดียว

ทั้งนี้เป้าหมายหลักของ Starlink คือการที่ให้คนในทุกพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลกสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งทำให้ Starlink มีข้อได้เปรียบในด้านการเข้าถึงผู้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่าการเดินสายไฟเบอร์ออปติก 

รวมถึงมัสก์ยังกล่าวในปี 2016 ว่า “หากมนุษย์หลายล้านคนไปตั้งรกรากบนดาวอังคารแล้ว พวกเขาคงไม่อยากใช้วิทยุสื่อสารสมัยเก่าแบบเชยๆ กัน พวกเขาคงอยากใช้ iPhone หรือ Android มากกว่า” วิสัยทัศน์นี้ของมัสก์แสดงถึงเป้าหมายสูงสุดที่แท้จริงของ Starlink คือการเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการสื่อสารบนดาวอังคาร 

เนื้อหาข่าวจาก The Standard

ภาพประกอบ Starlink

Monster Connect
Monster Connect