เนื่องจากบริการ Cloud computing เติบโตเต็มที่ทั้งในเชิงพาณิชย์และเทคโนโลยี จะทำให้บริษัทต่างๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดได้ง่ายขึ้น การรู้ว่า Cloud computing คืออะไรและทำงานอย่างไรก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) กำหนดการประมวลผล Cloud ตามที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันให้มีลักษณะ 5 ข้อ ดังนี้
1.บริการตนเองตามความต้องการ (On-demand self-service)
ทรัพยากรการประมวลผลแบบ Cloud สามารถจัดเตรียมได้โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์จากผู้ให้บริการ หมายความว่าองค์กรการผลิตสามารถจัดเตรียมทรัพยากรการประมวลผลเพิ่มเติมได้ตามต้องการโดยไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการระบบ Cloud ซึ่งอาจเป็นพื้นที่จัดเก็บ, Virtual machine instances, Database instances และอื่นๆ
องค์กรการผลิตสามารถใช้ Portal แบบบริการตนเองของเว็บเป็น Interface ในการเข้าถึงบัญชีระบบ Cloud เพื่อดูบริการระบบ Cloud, การใช้งาน ตลอดจนจัดเตรียมและยกเลิกการจัดเตรียมบริการตามความจำเป็น
2. การเข้าถึงเครือข่ายแบบกว้าง (Broad network access)
ทรัพยากรการประมวลผลแบบ Cloud มีอยู่ในเครือข่ายและสามารถเข้าถึงได้โดยแพลตฟอร์มลูกค้าที่หลากหลาย หมายความว่าบริการ Cloud พร้อมใช้งานบนเครือข่าย เช่น อินเทอร์เน็ต หรือในกรณีของ Cloud ส่วนตัว อาจเป็นเครือข่ายท้องถิ่น (LAN)
3. การรวมหลายผู้เช่าและการรวมทรัพยากร (Multi-tenancy and resource pooling)
ทรัพยากรการประมวลผลแบบ Cloud ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับรูปแบบผู้เช่าหลายราย การเช่าหลายรายการช่วยให้ลูกค้าหลายรายแชร์แอปพลิเคชันเดียวกันหรือโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพเดียวกันในขณะที่รักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเหนือข้อมูลของพวกเขา คล้ายกับคนที่อาศัยอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์ ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันในอาคารเดียวกัน แต่ยังมีอพาร์ทเมนท์ของตนเองและความเป็นส่วนตัวภายในโครงสร้างพื้นฐานนั้น
การรวมทรัพยากรหมายความว่าลูกค้าหลายรายได้รับบริการจากทรัพยากรทางกายภาพเดียวกัน แหล่งทรัพยากรของผู้ให้บริการควรมีขนาดใหญ่มากและมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าหลายรายและเพื่อให้ประหยัดต่อขนาด เมื่อพูดถึงการรวมทรัพยากร การจัดสรรทรัพยากรจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันการผลิตที่สำคัญ
4. ความยืดหยุ่นและความยืดหยุ่นอย่างรวดเร็ว (Rapid elasticity and scalability)
บริการด้านคอมพิวเตอร์ควรมีทรัพยากรด้านไอทีที่สามารถขยายและใช้งานได้อย่างรวดเร็วและตามความจำเป็น เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ต้องการบริการ จะมีการจัดเตรียมให้เขาและจะขยายออกทันทีที่ความข้อดีอย่างหนึ่งของการประมวลผลแบบคลาวด์คือความสามารถในการจัดเตรียมทรัพยากรในระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วตามที่องค์กรการผลิตต้องการ แล้วเอาออกเมื่อไม่ต้องการ ทรัพยากรการประมวลผลแบบคลาวด์สามารถขยายขนาดขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว และในบางกรณี โดยอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ เป็นคุณสมบัติหลักของคลาวด์คอมพิวติ้ง การใช้งาน ความจุ และต้นทุน สามารถเพิ่มหรือลดได้โดยไม่มีสัญญาหรือบทลงโทษเพิ่มเติม
5. บริการที่วัดผลได้ (Measured service)
การใช้ทรัพยากรการประมวลผลแบบ Cloud จะถูกวัดผลและองค์กรการผลิตจะจ่ายเงินตามสิ่งที่พวกเขาใช้ไป การใช้ทรัพยากรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยใช้ความสามารถในการคิดค่าใช้จ่ายต่อการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าการใช้ทรัพยากรระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็นอินสแตนซ์ของเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่ทำงานอยู่ หรือที่จัดเก็บข้อมูลในระบบ Cloud จะได้รับการตรวจสอบ วัดผล และรายงานโดยผู้ให้บริการระบบ