ในมุมมองด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในปัจจุบันนอกจากจะเป็นการขับเคลื่อนตัวธุรกิจเองให้สามารถปรับตัวไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆแล้วการดำเนินการเรื่องงบประมาณให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีก็เป็นส่วนสำคัญในบล็อคนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าตัว CAPEX กับ OPEX ว่ามันคืออะไร รูปแบบของมันเป็นอย่างไร
CAPEX (Capital Expenditures)
เป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านไอทีที่หมายถึงการใช้ทุ่มทุนไปกับสินทรัพย์ถาวรขององค์กรซื้ออุปกรณ์ซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์และทรัพยากรคนที่มีความสามารถด้านนั้นเพื่อมาดูแลระบบอีกทีในระยะยาวมากกว่า1ปี หรือยาวกว่านั้น เป็นการคิดรวมค่าเสื่อมราคาตลอดอายุการใช้งานเข้าไปด้วยตลอดการใช้งาน เมื่อหมดอายุการใช้งาน จะต้องเปลี่ยนไป อุปกรณ์ไปเรื่อยๆ แต่เราจะไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายที่เป็นรายเดือนหรือรายปี ตัวอย่างค่าใช้จ่าย Capex
- IBM Power systems
- Intel-based Windows servers
- IT Infrastructure
OPEX (Operational Expenditures)
ค่าใช้จ่ายในการดำเนิน อย่างในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงด้านธุรกิจไอทีได้เปลี่ยนไป การใช้วิธีการ OPEX ผ่านการให้บริการในรูปแบบ “as-a-service” การใช้จ่ายที่ไม่ต้องจ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เป็นการซื้อตามรอบกำหนด หรือชำระตามการใช้จริง ทำให้เราเห็นข้อดีหลาย ๆอย่างในการที่จะ ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถกระจายการชำระเงินได้เป็นระยะเวลานาน และใช้เงินสดที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับโซลูชันการสร้างรายได้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการนำ เอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว อย่างในปัจจุบันบริการซื้อคลาวด์ ที่ซื้อเฉพาะปริมาณการใช้จริง
ความแตกต่างระหว่าง CAPEX กับ OPEX ในด้านเทคโนโลยี
ข้อดีข้อเสียของ CAPEX
รูปแบบการซื้อแบบระยะยาวโดยใช้เงินในการลงทุนจำนวนมาก เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถขององค์กร อย่างเช่น บริษัทซื้อเซิร์ฟเวอร์เป็นของธุรกิจเองก็ถือเป็นทรัพย์สินของทางองค์กรเองและด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนอยู่ตลอด ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่คิดว่าจะลงทุนในระยะยาวอาจจะล้าสมัยไปก่อน นอกจากนี้การซื้อในจำนวนที่มากละจ่ายไปในราคาที่สูง บางธุรกิจยังไม่สามารถคาดการได้ว่าสิ่งที่องค์กรลงทุนมาจะรองรับการใช้งานได้ไม่คงที่ อย่างเช่น องค์กรลงซื้อ server มาจำนวนนึง ระยะเวลาผ่านไป การทำงานภายในองค์กรใหญ่ขึ้น ก็ต้องเกิดการปรับเปลี่ยนขนาดทำให้มีค่าใช้จ่ายที่พ่วงเข้ามาด้วย ฉะนั้นการเป็นเจ้าของโซลูชันนั้นๆ อาจจะทำให้รูปแบบ CAPEX ที่ทำให้เกิดประโยชน์ของธุรกิจของคุณได้ เช่น การเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ของคุณเองอาจเป็นประโยชน์ แทนที่จะต้องใช้บริการservice แบบรายเดือน
ข้อดีและข้อเสียของ OPEX
ทุกวันนี้ตัวเลือกเทคโนโลยี และวิธีการส่งมอบบริการด้าน IT เป็นอะไรที่ง่ายและสะดวก องค์กรมีทางเลือกมากขึ้นเพราะสามารถซื้อเทคโนโลยีล่าสุดและดีที่สุดได้โดยไม่ต้องหาเงินก้อนใหญ่ล่วงหน้าเพื่อจ่ายลดภาระการกู้ยืมเพื่อมาลงทุน ทำให้มีเงินสดเพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนProject อื่นๆ อย่าง ระบบคลาวด์หรือเป็นค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิก มีซอฟต์แวร์มากมายที่ตอนนี้เป็น “SaaS” – software-as-a-service ทั้งของMicrosoft เองก็มีบริการบนคลาวด์เช่น Azure ที่อิงตามโครงสร้างแบบจ่ายตามที่ใช้ ยื่นหยุดต่อการใช้งานเวลามีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาและตอบสนองความต้องการของตัวองค์กรเอง เราสามารถเปลี่ยนและเทรนพนักงานได้โดยใช้เวลาอันสั้น แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่า OPEX จะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับองค์กรมากกว่า CAPEX บางกรณีบริการคลาวด์เองที่ทุกคนอาจจะคิดว่าเป็นโซลูชั่นที่ดีในการที่จะย้ายไปอยู่บนคลาวด์ เพื่อประหยัดต้นทุนและเวลา แต่การเริ่มต้นทีจะทำนั้นอาจเพิ่มต้นทุนได้
สรุป CAPEXและ OPEX
CAPEX และ OPEX ทั้งสองเป็นการหาทางออกด้านการจัดการงบประมาณด้านไอทีภายในองค์กรของคุณเองไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับวิธีจัดโครงสร้างงบประมาณด้านไอทีอย่างไรและใช้แบบไหนจะทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับการเงิน โดยในบางธุรกิจที่มีรายรับที่มากกว่ารายจ่าย ต้องการที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินด้านเทคโนโลยี อย่าง ฮาร์แวร์ และต้องการลงทุนเพื่อตอบโซลูชั่นภายในองค์กรสอดคล้องไปตามรูปแบบโมเดลธุรกิจของคุณเองก็อาจจะเหมาะกับ CAPEX และยิ่งในองค์กรที่เป็นขนาดเล็กและขนาดกลาง สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงการพัฒนาใหม่ในโซลูชันเทคโนโลยีที่หลากหลายซึ่งขณะนี้มีอยู่ใน OPEX มากกว่า CAPEX
องค์กรหรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ Microsoft 365 สามารถติดต่อกับเราได้ทางบริษัท Monster connect
ผ่านช่องทาง ไลน์ Line : @monsterconnect
.สนใจทดสอบ หรือสอบถามข้อมูล เกี่ยวกับ Microsoft
ติดต่อ บริษัท มอนสเตอร์ คอนเนค โทร 02-026-6665 หรือ Line: @monsterconnect ได้ 24 ชั่วโมง
Ref : https://blog.toughbook.eu/blog/opex-or-capex-your-it-investment
https://www.kaseya.com/blog/2021/01/11/capex-vs-opex/
